โทรศัพท์ 1358

รองภาสกร นำทีม ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค พื้นที่ภาคเหนือ ศึกษาดูงาน  CIV บ้านนาต้นจั่น
วันที่ 2 ธันวาคม 2563 นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนางสาวนิรามัย ศิริศรีสุดากุล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 , นายสุรพล ปลื้มใจ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 2 , นายอภินันท์ เจริญสุข ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน ณ หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) บ้านนาต้นจั่น ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย การลงพื้นที่ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโครงการ CIV ได้เรียนรู้ และเห็นถึงความเข้มแข็งของผู้นำชุมชน ความสามัคคีของคนในชุมชน และการบริหารจัดการ หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) บ้านนาต้นจั่น ที่มีความพร้อม และมีศักยภาพ สามารถนำมาเป็นต้นแบบในการพัฒนา ส่งเสริมหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) ในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ซึ่งได้เข้าชม จุดสำคัญ 2 จุด ดังนี้ - กลุ่มอาชีพทอผ้าบ้านนาต้นจั่น ผลิตผ้าฝ้ายด้วยการนำมาหมักโคลนของกลุ่มอาชีพทอผ้าบ้านนาต้นจั่นเพื่อให้มีความนุ่มสบาย มีการออกแบบให้มีความทันสมัย สวยงาม - กลุ่มแปรรูปการเกษตรบ้านห้วยตม ซึ่งถือเป็นแหล่งต้นน้ำสำหรับการผลิตกาแฟโรบัสต้า ซึ่งมีจุดเด่นของกาแฟ คือ มีกลิ่นทุเรียนปะปนมาด้วยเนื่องจากการเพาะปลูกแบบผสมผสานกันและให้ต้นกาแฟได้อาศัยร่มเงาของต้นทุเรียน โดยจุดนี้ เป็นจุดที่เชื่อมโยงมาจากเส้นทางการท่องเที่ยวของหมู่บ้าน CIV นาต้นจั่นอีกด้วย
02 ธ.ค. 2020
ศภ.1 กสอ. Kick Off ฝึกอบรมด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยทุนทางวัฒนธรรมฯ หวังพัฒนาชุมชน ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก
วันที่ 1 ธันวาคม 2563 นางสาวนิรามัย ศิริสุดากุล ผอ.ศภ.1 กสอ. เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร “การออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาสู่สากล” ภายใต้โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาสู่สากล ปีงบประมาณ 2564 โดยมีนางพรสวรรค์ หมายยอด ผกช.ศภ.1 กสอ. กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การดำเนินงาน การฝึกอบรมดังกล่าว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 2 ธันวาคม 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการนำทุนทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของสังคมไทยมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาศักยภาพการผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เกิดมูลค่าเพิ่ม มีคุณภาพ อันเป็นสร้างโอกาสทางการตลาดและรายได้ให้แก่ชุมชน อีกทั้งยังเป็นการยกระดับการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เป็นที่ต้องการของตลาด การฝึกอบรมในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมจำนวนทั้งสิ้น 20 ราย รวม 40 คน โดยผู้เข้าร่วมเป็นประธานและสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ทั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและวิสาหกิจรายเดี่ยว จาก 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ณ โรงแรมโรงแรมดิเอ็มเพรส อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
01 ธ.ค. 2020
ศภ.1 กสอ. เฟ้นหา 5 ผู้ประกอบการเพื่อเข้าร่วมโครงการ “การพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการ SMEs ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล”
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 นางสาวนิรามัย ศิริสุดากุล ผอ.ศภ.1 กสอ. พร้อมด้วยนางสาวสุธีรา ตะริโย ผกธ.ศภ.1 กสอ. และเจ้าหน้าที่ ร่วมประชุมคัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรม “การพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการ SMEs ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล” ภายใต้โครงการส่งเสริมและสนับสนุนประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ประจำปีงบประมาณ 2564 กิจกรรมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับวิสาหกิจด้วยการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และเพื่อพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ SMEs ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ระบบ Enterprise Resource Planning สำหรับกิจกรรมนี้มีสถานประกอบการสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ จำนวน 11 กิจการ ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการจำนวน 5 กิจการ โดยสถานประกอบการที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับคำปรึกษาแนะนำเชิงลึกด้านการนำเทคโนโลยีดิจิทัล ระบบ Enterprise Resource Planning : ERP สำหรับประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจ กิจการละ 8 Man – Day ต่อไป
30 พ.ย. 2020
ศภ.1 กสอ. รณรงค์มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID – 19 ภายในงาน Gift Fair 2020
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 นางสาวนิรามัย ศิริสุดากุล ผอ.ศภ.1 กสอ. พร้อมด้วย พญ. นงนุช ภัทรอนันตนพ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 1 , นายณัฐฐ์ชูเดช วิริยดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และ นางสาวกัณณิกา บัวจีน รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ (ประธานจัดงาน Gift Fair 2020) ร่วมรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID - 19 ให้กับผู้ประกอบการร้านค้า ประชาชนทั่วไปที่มางานหัตถกรรม “ของขวัญ ของที่ระลึก” ครั้งที่ 30 (Gift Fair 2020) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน ถึง วันที่ 6 ธันวาคม 2563 ณ ศภ.1 กสอ. การรณรงค์ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจ และความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการที่มาจัดจำหน่ายสินค้าภายในงาน และประชาชนทั่วไปที่จะมาเลือกซื้อสินค้าภายในงาน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานใน ศภ.1 กสอ. ทั้งนี้ได้ร่วมกันแจกหน้ากากอนามัย พร้อมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์มาตรการป้องการการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID - 19 โดยขอความร่วมมือให้สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ในจุดที่ให้บริการ เว้นระยะห่าง และให้ความร่วมมือตรวจวัดไข้บริเวณทางเข้าออกงาน พร้อมทั้งลงทะเบียนด้วย app “ไทยชนะ”ทุกครั้ง
30 พ.ย. 2020
ผอ.ศภ.1 กสอ. ขึ้นเวทีบรรยาย "การรับมือการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม หลัง COVID-19" ให้กับ บริษัท TEX จังหวัดระยอง
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 นางสาวนิรามัย ศิริสุดากุล ผอ.ศภ.1 กสอ. เป็นวิทยากรบรรยายเรื่อง “การรับมือการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมหลัง COVID – 19” ให้กับผู้บริหาร บุคลากร บริษัท ไทย อีทอกซีเลท จำกัด (TEX) จำนวน 60 คน ในโอกาสที่บริษัทฯ จัดกิจกรรมสัมมนาพัฒนาบุคลากรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีคุณปิยะ สุริย์ (กรรมการผู้จัดการ) ร่วมรับฟังด้วย บริษัท ไทย อีทอกซีเลท จำกัด (TEX) ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอตะวันออก (มาบตาพุด) อ.เมือง จ.ระยอง เป็นบริษัทในกลุ่ม พีทีที โกลบอล เคมิคิล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์ โดยผลิตสารตั้งต้นในการผลิตแชมพูในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยส่วนบุคคล และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือน ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวในประเทศ ได้จัดกิจกรรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ณ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 1 ธันวาคม 2563 จึงมีความประสงค์ให้พนักงาน บุคลากรในบริษัท ได้รับทราบถึง แนวทาง แนวคิด ในการปรับองค์กร การปรับกระบวนการทำงาน ให้สามารถแข่งขันได้ และอยู่รอดในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจาก COVID-19 จบ ทั้งนี้ นอกจาก ผอ.ศภ.1 กสอ. จะบรรยายให้ความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์แล้ว ยังได้ประชาสัมพันธ์ ชี้แจงนโยบายของ กสอ. และมาตรการต่างๆ ในการส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs และพนักงาน บุคลากร อีกด้วย
29 พ.ย. 2020
ศภ.1 กสอ. เข้มงวดป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID – 19 ภายในงาน Gift Fair 2020
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 นางสาวนิรามัย ศิริสุดากุล ผอ.ศภ.1 กสอ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ร่วมมอบหน้ากากอนามัย และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID - 19 ให้กับผู้ประกอบการ ร้านค้าที่มาจำหน่ายสินค้าภายในงาน "หัตถกรรมของขวัญ ของที่ระลึก” ครั้งที่ 30 (Gift Fair 2020) สืบเนื่องจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงกรณีพบผู้ป่วย COVID – 19 คนที่ 42 ของจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ทำให้ ศภ.1 กสอ. และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ เพิ่มความเข้มงวดการปฎิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID - 19 ภายในงาน Gift Fair 2020 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน ถึง 6 ธันวาคม 2563 อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการที่มาจัดจำหน่ายสินค้าภายในงาน และประชาชนทั่วไปที่มาเลือกซื้อสินค้า ตลอดจนเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานใน ศภ.1 กสอ. โดย ผอ. ศภ.1 กสอ. และเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันแจกหน้ากากอนามัย พร้อมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์มาตรการป้องการการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID - 19 โดยขอความร่วมมือให้สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ในจุดที่ให้บริการ เว้นระยะห่าง และให้ความร่วมมือตรวจวัดไข้บริเวณทางเข้าออกงาน พร้อมทั้งลงทะเบียนด้วย app “ไทยชนะ”ทุกครั้ง
29 พ.ย. 2020
ศภ.1 กสอ. ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ จัดงาน “Gift Fair 2020”
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน “หัตถกรรม ของขวัญ ของที่ระลึกครั้งที่ 30” (Gift Fair 2020) โดยมี นางสาวกัณณิกา บัวจีน รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ (ประธานจัดงาน) กล่าวรายงาน และมีนายบุญอุ้ม วงศ์บุตร อุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ พร้อมกันนี้ ยังได้รับเกียรติจากกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ กงสุลสาธารณรัฐอินเดีย ณ จังหวัดเชียงใหม่ กงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดเชียงใหม่ กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเปรู ณ จังหวัดเชียงใหม่ อุตสาหกรรมจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชนร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงานดังกล่าวด้วย ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ศภ.1 กสอ.) ถ.ทุ่งโฮเต็ล อ.เมือง งาน Gift Fair 2020 ครั้งที่ 30 จัดขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่าง ศภ.1 กสอ. กับ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสินค้าหัตถกรรมให้เป็นที่ยอมรับในตลาดสากล และเป็นเวทีให้กับผู้ประกอบการซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน ได้มีช่องทางการจำหน่ายสินค้า โดยตลอดระยะเวลาของการจัดงานที่ผ่านมาผู้ประกอบการได้มีการปรับรูปแบบ วิธีการผลิตให้สินค้ามีความโดดเด่น มีมูลค่าเพิ่มและตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จนทำให้สินค้าหัตถกรรมสามารถจำหน่ายและขยายตลาดได้อย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ งานดังกล่าวถือได้ว่าเป็นงานแสดงสินค้าหัตถกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ มีสินค้าที่สามารถพัฒนาเข้าสู่ตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล สำหรับงานในครั้งนี้ มีกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตกแต่ง ของที่ระลึกจากผู้ผลิตและผู้ประกอบการอุตสาหกรรม SMEs วิสาหกิจชุมชน ผลิตภัณฑ์จากกลุ่ม Cluster ตลอดจน ผลิตภัณฑ์ TOP OTOP และ สินค้าแฮนด์เมด ที่เหมาะสำหรับเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ มาร่วมจำหน่ายจำนวนกว่า 300 ราย ในพื้นที่ 450 บูธ โดยผู้ออกบูธส่วนใหญ่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีบริการให้คำปรึกษาแนะนำทางด้านธุรกิจ การออกร้านของผู้ประกอบการ ภายใต้โครงการเพิ่มมูลค่าผ้าทอล้านนาด้วยนวัตกรรมของสถาบันพัฒนาสิ่งทอ การสัมมนาจากสถาบันรหัสสากล ในหัวข้อเรื่อง "เตรียมความพร้อมให้ Smart SME ด้วยเทคโนโลยีมาตรฐานสากล" พร้อมคลินิกให้คำปรึกษาด้านบาร์โค้ด และด้านสินเชื่อจาก SME D Bank เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าตลอดการจัดงาน ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน ถึง 6 ธันวาคม 2563นี้ จะสามารถกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยมีเงินสะพัดกว่า 30 ล้านบาท
27 พ.ย. 2020
"ศภ.1 กสอ. - สอจ. เชียงราย" ผนึกกำลัง ร่วมบูรณาการแผนการทำงานให้สอดรับความต้องการของพื้นที่
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 ณ สอจ.เชียงราย นางสาวนิรามัย ศิริศรีสุดากุล ผอ.ศภ.1 กสอ. พร้อมด้วย ผกธ. และเจ้าหน้าที่ เข้าพบหารือ นางกฤษนันท์ ทะวิชัย อสจ.เชียงราย ณ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ชี้แจง ประชาสัมพันธ์การดำเนินงานกิจกรรม โครงการต่างๆ ที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2564 โดยเฉพาะกิจกรรมที่มีแผนการดำเนินงานในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อร่วมกันบูรณาการการทำงาน และคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการให้ตรงกับความต้องการ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพต่อไป
25 พ.ย. 2020
ศภ.1 กสอ. ปักหมุด "คลัสเตอร์กาแฟเชียงราย" เตรียมผลักดันให้เกิดการรวมกลุ่มผู้ประกอบการ เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์กาแฟ
วันที่ 24 - 25 พฤศจิกายน 2563 ณ จังหวัดเชียงราย นางสาวนิรามัย ศิริศรีสุดากุล ผอ.ศภ.1 กสอ. พร้อมด้วย นางสาวสุธีรา ตะริโย ผกธ.ศภ.1 กสอ. และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ สำรวจ และเตรียมความพร้อมกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกาแฟ โครงการพัฒนาเครือข่ายคลัสเตอร์กาแฟ พื้นที่จังหวัดเชียงรายและใกล้เคียง ปีงบประมาณ 2564 ดังนี้ - "Dok Chiangrai" อ.เมือง จ.เชียงราย ร้านกาแฟที่มี Story ที่ตั้งใจจะช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟจากดอยต่างๆในจังหวัดเชียงราย ได้มีช่องทางการจำหน่ายที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง อีกทั้งยังเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์อัตลักษณ์กาแฟจากดอยต่างๆ ให้เป็นที่รู้จัก จึงมีแนวคิดให้บริการลูกค้า โดยนำกาแฟจากดอยต่างๆ จำนวน 8 ดอย ในแหล่งปลูกพื้นที่จังหวัดเชียงราย อาทิ ดอยผาหมี ดอยช้าง แม่จันใต้ และปางขอน เป็นต้น มาจำหน่ายให้ลูกค้าได้สัมผัสและดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟจากดอยต่างๆ โดยมุ่งหวังว่าจะช่วยเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟตามรอย ในหลวง ร.9 ให้กาแฟไทยเป็นที่ยอมรับ และมีชื่อเสียงทั่วโลก ถึงแม้ว่าตัวผู้ประกอบการเองจะแพ้คาเฟอีนก็ตาม - "กาแฟดอยผาหมี" อ.แม่สาย จ. เชียงราย ผู้ปลูก ผลิต และจำหน่ายกาแฟ โดยเริ่มต้นจากผู้ประกอบการมีความฝันจะกลับมาสร้างคุณค่าให้แก่บ้านเกิด จึงตัดสินใจกลับมาปรับที่บ้านพักของตนเองและเปิดร้านกาแฟดังกล่าวขึ้น ซึ่งถือเป็นร้านกาแฟแห่งแรกบนดอยผาหมี โดยมีสโลแกนประจำร้านว่า "จิบกาแฟแลหน้าผา" ภายในร้านยังมีภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของ ร.9 ครั้งเมื่อเสด็จที่ดอยผาหมี ซึ่งชาวบ้านผาหมีทุกคนนั้นล้วนทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้เพราะพระองค์ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน ทั้งนี้ดอยผาหมีได้เป็นหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ CIV ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายด้วย - "AGAPE" ร้านกาแฟในตัวเมืองเชียงราย ของคนอาข่าแท้ ที่ปลูกกาแฟอาราบิก้าบนยอดดอยช้าง โดย Agape Coffee (อากาเป) เป็นภาษาฮีบรู แปลว่า รักอย่างไม่มีเงื่อนไข สำหรับบาริสต้า การันตีด้วยรางวัลจากเวที Roasters’ Choice Award 2014 รางวัล Winner Espresso ทั้งนี้ การสำรวจเตรียมความพร้อม ณ AGAPE Coffee มี นางกฤษนันท์ ทะวิชัย อสจ. เชียงราย ร่วมด้วย จากการลงพื้นที่ดังกล่าว ทำให้ได้เห็นถึงความพร้อมผู้ประกอบการที่มีความต้องการร่วมกันเป็นเครือข่ายที่มีความเข้มแข็ง ทั้ง ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยมีความมุ่งหวังในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกาแฟของจังหวัดเชียงราย เพราะในพื้นที่จังหวัดเชียงรายมีชื่อเสียงด้านกาแฟอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของภูมิภาคซึ่งมีทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งกาแฟถือเป็นหนึ่งในสินค้าที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอันมาก จึงมีความยินดีเข้าร่วมโครงการ พัฒนาเครือข่ายคลัสเตอร์กาแฟ พื้นที่จังหวัดเชียงรายและใกล้เคียง ในปีงบประมาณ 2564 นี้ต่อไป
25 พ.ย. 2020
ศภ.1 กสอ. ยกทัพเดินสาย "พะเยา" พบปะ สอจ. และ ผู้ประกอบการ เตรียมความพร้อมกลุ่มเป้าหมาย ปี 2564
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ณ จังหวัดพะเยา นางสาวนิรามัย ศิริศรีสุดากุล ผอ.ศภ.1 กสอ. พร้อมด้วย นางสาวสุธีรา ตะริโย ผกธ.ศภ.1 กสอ. และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ จังหวัดพะเยา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงรายละเอียดโครงการ และนโยบายการส่งเสริม SMEs ประจำปีงบประมาณ 2564 ที่จะดำเนินการในพื้นที่ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ สำรวจ และเตรียมความพร้อมกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ - "บริษัท อินเตอร์ คอฟฟี่ เทรด จำกัด" เป็นกิจการที่ดำเนินธุรกิจกาแฟสดครบวงจร ได้รับรองมาตรฐาน GMP ฮาลาล ผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ Coffman , Siam best และ พะเยา คอฟฟี่ อีกทั้งยังสามารถให้คำปรึกษาทางด้านการผลิตสินค้า OEM ในแบรนด์ของลูกค้า รับคั่วกาแฟตามระดับความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยประสบการณ์ด้าน การคั่วกาแฟมามากกว่า 13 ปี โดยมีความประสงค์เข้าร่วมโครงการยกระดับการพัฒนาอัตลักษณ์กาแฟอะราบิก้าภาคเหนือ และโครงการการพัฒนาเครือข่ายคลัสเตอร์กาแฟ พื้นที่จังหวัดเชียงรายและใกล้เคียง โดยยังได้นัดพบ นายพงษ์เกษม โพธิ์แก้ว อสจ.พะเยา เพื่อชี้แจงถึงรายละเอียดโครงการต่างๆ ที่ ศภ.1 กสอ. จะเข้ามาดำเนินงานในพื้นที่จังหวัดพะเยา ในปีงบประมาณ 2564 นี้ - “บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี (วิสาหกิจเพื่อสังคม) พะเยา จำกัด” ก่อตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายหลักเพื่อสังคม เน้นการสร้างรายได้ให้กับชุมชน ทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย (SME/OTOP) ซึ่งในการเข้าพบครั้งนี้ ได้เข้าพบ ณ วิทยาลัยเทคนิคพะเยา ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดฝึกอบรมหลักสูตรทำอาหารเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ ผอ.ศภ.1 กสอ. ได้พูดแนะนำบริการและโครงการต่างๆ ของ ศภ.1 กสอ. ให้กับผู้เข้าร่วมอบรมรับทราบด้วย พร้อมกันนี้ ยังได้พบปะกับ คุณจรัส สุทธิกุลบุตร ประธานบริษัทฯ และเชิญชวนเข้าร่วมโครงการของ ศภ.1 กสอ. โดยได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการเป็นอย่างดี และคาดว่าจะเข้าร่วมโครงการส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจร ในปีงบประมาณ 2564 ต่อไป จากการลงพื้นที่ดังกล่าว ผอ.ศภ.1 กสอ. ได้เล็งเห็นถึงปัญหาและความต้องการของผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดพะเยา พร้อมทั้งได้หาแนวทางการส่งเสริมผู้ประกอบการร่วมกับ สอจ.พะเยา เพื่อให้เกิดการบูรณาการในการร่วมกันทำงานร่วมกัน อันจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการดำเนินโครการและเกิดประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างแท้จริง
24 พ.ย. 2020