วันที่ 19 มีนาคม 2562 นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายเจตนิพิฐ รอดภัย เลขานุการกรม สำนักงานเลขานุการกรม นายวาที พีระวรานุพงศ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม นางสาวนิรามัย ศิริศรีสุดากุล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที 1 นางสาวหนึ่งหทัย ธรรมพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 2 นางเฉลา ศรีเพ็ชร์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 และคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานของสถานประกอบการที่ได้รับการส่งเสริม พัฒนา และสนับสนุน จาก ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 ณ บริษัท นอร์ทเทิร์นกรีนโปรดักส์ จำกัด โดยมี คุณสมรรถ พรมมา กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ ให้การต้อนรับ พร้อมนำเสนอข้อมูลการผลิตและนำเยี่ยมชมกระบวนการเทคโนโลยีอบสุญญากาศ บริษัทดังกล่าว เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปพืชผักและเครื่องเทศอบแห้ง ชุดเครื่องอาหารไทยพร้อมปรุง และวัตถุดิบทำชาสมุนไพรภายใต้แบรนด์แตงค์ไทย (THANK THAI) ที่มีความชำนาญในการจัดหาวัตถุดิบและมีการผลิตที่ทันสมัย อบด้วยระบบสุญญากาศ ทำให้สามารถคงสี กลิ่น รส และคุณค่าทางอาหารได้อย่างครบถ้วน โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนจาก กสอ. ผ่านโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ อาทิ โครงการเพิ่มขีดความสามารถบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานภาคอุตสาหกรรม โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SME สู่การเป็น Smart SMEs และ Global SMEs (คพอ.รุ่น 336) รวมถึงได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จำนวน 3 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต โดยการเปลี่ยนจากระบบแก๊สมาเป็นระบบไอน้ำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่การจัดวางวัตถุดิบทำให้สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้มากขึ้นและลดปัจจัยความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งยังได้ปรับปรุงและต่อยอดทั้งด้านโครงสร้าง กระบวนการและการบริหาร เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังนำองค์ความรู้ต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตให้เกิดประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น รวมทั้งด้านการพัฒนาบุคลากรของบริษัทฯ ซึ่งในปีนี้บริษัทได้เข้าร่วมโครงการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมระบบเพื่อเฝ้าติดตาม และตรวจสอบดูแลการทางานของเครื่องจักร (Machine Monitoring System) เพื่อใช้ตรวจสอบและแจ้งเตือนสถานะการทำงานของเครื่องจักรในส่วนต่างๆ อาทิ การตรวจวัดอุณหภูมิ (Temp Sensor) การตรวจวัดความชื้น การควบคุมการทำงานของพัดลมดูดอากาศ (Control System turn on/off) โดยมุ่งหวังให้ผลิตภัณฑ์ได้ค่ามาตรฐานรวมถึงลดค่าความเสียหายจากการผลิต โดยภายหลังการดำเนินการบริษัทฯ สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ถึง 1.8 ล้านบาทต่อปี หรือ คิดเป็นร้อยละ 18 ของต้นทุนการผลิต

วันที่ 19 มีนาคม 2562 นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายเจตนิพิฐ รอดภัย เลขานุการกรม สำนักงานเลขานุการกรม นายวาที พีระวรานุพงศ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม นางสาวนิรามัย ศิริศรีสุดากุล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที 1 นางสาวหนึ่งหทัย ธรรมพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 2 นางเฉลา ศรีเพ็ชร์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 และคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานของสถานประกอบการที่ได้รับการส่งเสริม พัฒนา และสนับสนุนจาก กสอ. ณ บริษัท เอ็กซาซีแลม จำกัด โดยมีคณะผู้บริหารบริษัทฯ ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งกล่าวสรุปผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทฯ และนำเยี่ยมชมกระบวนการผลิตต่าง ๆ บริษัทดังกล่าว เป็นผู้ผลิตทันตกรรมเทียม (ฟันปลอม) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยผลิตฟันปลอมในรูปแบบต่าง ๆ ให้กับคลินิกทันกรรมและโรงพยาบาลของประเทศไทย รวมถึงส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ด้วยคุณภาพในมาตรฐาน ISO13485 และมาตรฐานระดับสากลต่าง ๆ มีใบรับรองแหล่งที่มาและคุณภาพวัตถุดิบ ซึ่งบริษัทฯ จัดได้ว่ามีกระบวนการผลิตที่ทันสมัยที่สุด ได้แก่ ระบบ Intra oral scanner and digital model ซึ่งเป็นการสแกนช่องปากและสร้างเป็นพิมพ์ปากสำหรับการหล่อฟันเทียม ทำให้สะดวก รวดเร็ว มีการส่งงานแบบออนไลน์ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุน จาก กสอ. ในโครงการต่าง ๆ ทำให้เกิด้แนวทางในการพัฒนารูปแบบธุรกิจอย่างรอบด้านทั้งในด้านการผลิต การบริหารจัดการ และการพัฒนาบุคลากร เช่น สามารถปรับผังโรงงานใหม่เหมาะสมกับกระบวนการผลิต มีความรวดเร็วในการรับคำสั่งซื้อและการสั่งงาน และสามารถลดอัตราของเสียได้ โดยล่าสุดทางบริษัทฯ ยังได้เข้าร่วมโครงการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมระบบเพื่อเฝ้าติดตาม และตรวจสอบดูแลการทำงานของเครื่องจักร (Machine Monittoring System) เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวร่างกายของพนักงานในแต่ละวัน และเชื่อมต่อผ่านระบบการจัดการข้อมูล เพื่อบริหารจัดการพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ดังกล่าวทำให้ประสิทธิภาพของการผลิตฟันปลอมจาก 400 ชิ้นต่อเดือนเป็น 480 ชิ้นต่อเดือน คิดเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 หรือคิดเป็นมูลค่า 1.2 ล้านบาท

วัน อังคาร ที่ 19 มีนาคม 2562 นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ลงพื้นที่กำกับติดตามการทำงานของที่ปรึกษา ภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมระบบอัจฉริยะเฝ้าติดตามและตรวจสอบดูแลการทำงานของเครื่องจักร (Machine Monitoring System) 1.บริษัท เอ็กซา ซีแลม จำกัด เลือก ติดตั้งระบบอัจฉริยะเฝ้าติดตามและตรวจสอบดูแลการทำงานของแรงงาน โดยเลือกตัวแทนพนักงานในแผนกผลิตฟันปลอมอะคริลิกถอดได้ จำนวน 5 คน ซึ่งเป็นแผนกที่มีกระบวนการคอขวด( Bottleneck Process) ตรวจจับ Activity ของคน จากการใช้เทคโนโลยีการตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกายเชื่อมต่อผ่านระบบการจัดการข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ (Cloud) เพื่อตรวจสอบการเคลื่อนไหวในแต่ละวัน เพื่อการบริหารจัดการพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตขึ้นร้อยละ 20 คิดเป็นมูลค่า 1,200,000บาท/ปี2.บริษัท นอร์ทเทิร์นกรีนโปรดักส์ จำกัด เลือก ติดตั้งระบบระบบอัจฉริยะเฝ้าติดตามและตรวจสอบดูแลการทำงานของเครื่องจักร (Machine Monitoring System) ในเตาอบสูญญากาศ ติดเซนเซอร์อัจฉริยะเพื่อตรวจสอบและแจ้งเตือนสถานะการทำงานของเครื่องจักร” 1.Temp Sensor 2.Humidity Sensor 3.Control Fan System turn on/off สามารถการลดต้นทุนในกระบวนการผลิต 1,896,000 บาทต่อปีคิดเป็น ร้อยละ 18.96

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2562 นางสาวนิรามัย ศิริศรีสุดากุล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 เป็นประธานในการประชุม ขับเคลื่อนเครือข่าย RISMEP จังหวัดเชียงราย ครั้งที่ 1/2562 ณ ห้องประชุมนารายณ์ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย ในการประชุมดังกล่าว ได้มีการรายงานสรุปผล การดำเนินงานเตรียมความพร้อมของเครือข่าย ประจำปีงบประมาณ 2561 และได้หารือเรื่อง กรอบการดำเนินงาน วิธีการทำงานเชิงบูรณาการในการให้บริการกับ SMEs ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยการประชุมดังกล่าว มีหัวหน้าหน่วยงาน และผู้แทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และ สถาบันการเงิน ที่มีบทบาทการส่งเสริม SMEs เข้าร่วมประชุม จำนวน 20 คน จาก 8 หน่วยงาน ทั้งนี้มีหน่วยงานในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในนาม RISMEP จังหวัดเชียงราย จำนวน 21 หน่วยงาน โดยจะมีการหารือ เรื่องการ MOU ในลำดับต่อไป

วันที่ 15 มีนาคม 2562 นางสาวนิรามัย ศิริศรีสุดากุล ผอ.ศภ.1 กสอ. และเจ้าหน้าที่ ศภ.1 กสอ. ลงพื้นที่กำกับติดตามการทำงานของที่ปรึกษา โครงการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ระบบอัจฉริยะเฝ้าติดตามและตรวจสอบดูแลการทำงานของเครื่องจักร (Machine Monitoring System) บริษัท เอ็กซา ซีแลม โดยมีคุณอนุชา มีเกียรติชัยกุล เป็นกรรมการผู้จัดการ ตั้งอยู่เลขที่ 213 ม.5 ต.สันพระเนตร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ บริษัทได้รับการติดตั้งระบบตรวจสอบดูแลการปฏิบัติงานของพนักงาน จำนวน 1 ชุด

วันที่ 15 มีนาคม 2562 นางสาวนิรามัย ศิริศรีสุดากุล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 ให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิด การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์จากกาแฟ ภายใต้โครงการสร้างโอกาสขยายฐานแรงงานสู่ผู้สูงอายุ ผู้เกษียณจากงาน และผู้สนใจทั่วไป เพื่อเพิ่มทักษะอาชีพ สร้างงาน สร้างอาชีพ และเพิ่มรายได้ โดยมีนายสว่าง จันทร์เที่ยง นายก อบต.เทพเสด็จ กล่าวต้อนรับ ณ เทศบาลตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งแบ่งหลักสูตรการอบรมเป็น 2 หลักสูตร ดังนี้1. หลักสูตรผลิตภัณฑ์สบู่กาแฟ2. หลักสูตรผลิตภัณฑ์กาแฟดริปและมีผู้สนใจเข้าร่วมอบรม จำนวน 180 คน

วันที่ 14 มีนาคม 2562 นางสาวนิรามัย ศิริศรีสุดากุล ผู้อำนวยการศูนยืส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 และเจ้าหน้าที่ ศภ.1 กสอ. ลงพื้นที่กำกับติดตามการทำงานของที่ปรึกษา โครงการ Machine Monitoring System บริษัท นอร์ทเทิร์นกรีนโปรดักส์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 32 ม.8 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยมี นายสมรรถ พรมมา เป็นเจ้าของกิจการ โครงการคลัสเตอร์กาแฟ บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด ที่อยู่ 206 ม. 9 ถ.อินทขิล แ.แม่แตง จ.เชียงใหม่โดย คุณนฤมล ทักษอุดม เป็นเจ้าของกิจการ

วันที่ 8 มีนาคม 2562 นางสาวนิรามัย ศิริศรีสุดากุล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 ให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิด กิจกรรม Startup Pitching Challenge ภายใต้โครงการ “เร่งการเติบโตของผู้ประกอบการจากกระบวนการ Spin-Out และวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ที่มีศักยภาพสูง (SMEs Spin-Out to Tech Startup)” โดยมีผู้เข้าแข่งขัน จำนวน 12 ทีม ซึ่งมีการนำเสนอโมเดลธุรกิจ ในรูปแบบของ Startup Pitching ณ โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ ในการนี้ จากการแข่งขัน ดังกล่าว ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับรางวัลดังนี้1.รางวัลชนะเลิศ มูลค่า 350,000 บาท2.รางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 มูลค่า 100,000 บาท3.รางวัลรองชนะเลิศอันดับ2 มูลค่า 50,000 บาทและมีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 70 คน

วันที่ 6 มีนาคม 2562 นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะผู้บริหาร ตรวจเยี่ยมและพบปะทักทายผู้เข้าอบรม หลักสูตรส่งสริมการผลิตสินค้าหัตกรรมชุมชนเพื่อเพิ่มทักษะและรายได้ ณ ศาลาประชาคม ที่ว่าการอำเภอแม่แจ่ม โดยมี นางสาวพัทธ์นันท์ ทิพาคำ ปลัดอำเภอแม่แจ่ม กล่าวต้อนรับ นายประเสริฐ ปันศิริ ประธานชรมผู้สูงอายุตำบลช่างเคิ่ง เป็นตัวแทนของผู้สูงอายุอำเภอแม่แจ่มกล่าวขอบคุณ การอบรมครั้งนี้จัดขึ้น โดย กช.ศภ.1 กสอ.มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุ ผู้เกษียณงานและผู้ใกล้เกษียณรวมถึงผู้สนใจมีอาชีพ เพิ่มรายได้ ฝึกทักษะฝีมือและเป็นการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งแบ่งฐานการอบรมเป็น 3 ฐาน ได้แก่ การทำดอกไม้จันทน์ การทำไม้กวาดทางมะพร้าว และการทำไม้กวาดดอกหญ้า มีผู้สนใจเข้าร่วมอบรมจำนวนทั้งสิ้น 165 คน

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตร และพิธีปิดโครงการ “เปลี่ยนถ่ายธุรกิจสู่องค์กรดิจิทัล (Business Transformation to Digital Firm)” และโครงการ “เร่งการเติบโตของผู้ประกอบการจากกระบวนการ Spin-Out และวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ที่มีศักยภาพสูง (SMEs Spin-Out to Tech Startup)” โดยนางสาวนิรามัย ศิริศรีสุดากุล ผอ.ศภ.1 กสอ.ให้เกียรติเป็นผู้กล่าวรายงาน โครงการ “เปลี่ยนถ่ายธุรกิจสู่องค์กรดิจิทัล (Business Transformation to Digital Firm)” มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ พัฒนาและยกระดับการประกอบธุรกิจเปลี่ยนถ่ายธุรกิจสู่องค์กรดิจิทัล เพื่อสร้างโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการ ภาคผลิตและภาคบริการในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมีผู้เข้าร่วมรับวุฒิบัตร จำนวน 52 กิจการ และโครงการ “เร่งการเติบโตของผู้ประกอบการจากกระบวนการ Spin-Out และวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ที่มีศักยภาพสูง (SMEs Spin-Out to Tech Startup)” มีวัตถุประสงค์ เพื่อเร่งการเติบโตของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในรูปแบบของการจัดตั้งบริษัทใหม่ ให้เป็นธุรกิจเทคโนโลยีสตาร์ทอัพ ซึ่งช่วยผลักดันและกระตุ้นเศรษฐกิจของผู้ประกอบการใหม่ในเขตภาคเหนือ อีกทั้งสร้างโอกาสการเติบโตของธุรกิจเทคโนโลยีสตาร์ทอัพแบบก้าวกระโดด ให้มีความพร้อมในการร่วมลงทุนกับนักลงทุนขนาดใหญ่ ภายใต้กลไกการผลักดัน Startup ในรูปแบบใหม่ โดยมีผู้เข้าร่วมรับวุฒิบัตร จำนวน 12 กิจการ